สุขภาพช่องคลอดถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิง หลายครั้งที่เมื่อเกิดความผิดปกติกลับถูกละเลยจนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างอื่นตามมา อีกทั้งอาการผิดปกติของช่องคลอดแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้

ดังนั้นนอกจากจะต้องหมั่นดูแลแล้ว จึงต้องหมั่นสังเกตว่ามีอาการผิดปกติใดเกิดขึ้น ซึ่งการรู้ทันสัญญาณของความผิดปกตินอกจากจะช่วยป้องกันปัญหา ยังช่วยเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

อาการผิดปกติเบื้องต้นที่ควรสังเกต

1. กลิ่นผิดปกติไปจากเดิม

โดยตามธรรมชาติช่องคลอดมีกลิ่นเล็กน้อย แต่หากมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรงอาจเป็นสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติอย่างอื่น เช่น อาการแสบร้อน อาการคันอย่างรุนแรง ลักษณะของตกขาวที่ผิดปกติ ตลอดจนภาวะเชื้อราในช่องคลอด หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น เพราะอาจกระตุ้นอาการระคายเคืองในช่องคลอดได้ และควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุโดยละเอียด

2. ความผิดปกติของตกขาว

  • ตกขาวมีสีน้ำตาลหรือปนเลือด เนื่องจากประจำเดือนมาผิดปกติ หรือเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก อาจมีอาการปวดท้องน้อยและเลือดออกจากช่องคลอดร่วมด้วย
  • ตกขาวมีสีเหลืองขุ่น อาจเป็นสัญญาณของโรคหนองใน โดยมีอาการปัสสาวะผิดปกติและปวดท้องน้อยร่วมด้วย
  • ตกขาวมีสีเหลืองออกเขียวร่วมกับกลิ่นผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อปรสิตจากการมีเพศสัมพันธ์ (Trichomoniasis) โดยมีอาการแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย
BDMS Wellness Common Vagina lProblems Signs
  • ตกขาวมีสีออกชมพู สาเหตุจากเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวหลังการคลอดบุตร
  • ตกขาวมีลักษณะเหนียวผิดปกติ อาจเป็นภาวะติดเชื้อยีสต์ของช่องคลอด
  • ตกขาวมีสีขาวหรือเหลืองร่วมกับกลิ่นคาว อาจเป็นภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด โดยมีอาการแสบภายในช่องคลอดและอาการบวมแดงร่วมด้วย

3. เจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์ 

4. ภายในช่องคลอดแห้งผิดปกติ

ปกติในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีลักษณะชุ่มชื้น เพื่อลดการเสียดสีและเพิ่มความยืดหยุ่นของช่องคลอด แต่หากมีภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งภาวะช่องคลอดแห้งจะนำไปสู่สาเหตุการติดเชื้อราในช่องคลอด แต่สำหรับผู้ที่เข้าสู่วัยทองภาวะช่องคลอดแห้งถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องน่ากังวล

5. ช่องคลอดมีเลือดออกผิดปกติ

เลือดออกผิดปกติในช่วงประจำเดือนนั้นมีทั้งเลือดออกมากเกินไป และเลือดออกน้อยเกินไป เป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยหลายสาเหตุ ได้แก่

  • มีเนื้องอกในมดลูก
  • ฮอร์โมนผิดปกติ
  • การใช้ยาคุมกำเนิด
  • มะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งช่องคลอด

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาวะตั้งครรภ์ หากพบว่าช่องคลอดมีเลือดออกถือว่าเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเพื่อความปลอดภัยของผู้ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ และสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนควรปรึกษาแพทย์

6. มีแผลหรือลักษณะความผิดปกติอื่น ๆ บริเวณผิวหนังใกล้ช่องคลอด

เมื่อสัมผัสช่องคลอดแล้วรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีลักษณะเป็นสิวใกล้กับช่องคลอด สาเหตุอาจเป็นเพราะผิวหนังระคายเคืองจากปัจจัยบางอย่าง เช่น ขนคุด หรือการใช้มีดโกนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากพบเจอก้อนความผิดปกติรอบ ๆ บริเวณช่องคลอดเป็นจำนวน ร่วมกับอาการคันและแสบร้อน อาจเป็นอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD)

ทั้งนี้ การหมั่นสังเกตและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอตลอดจนการรักษาความสะอาดและรับประทานอาหารที่เหมาะสม สามารถป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นกับช่องคลอดในเบื้องต้นได้ และหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันควรรีบพบแพทย์ อย่าอายหรือนิ่งนอนใจจนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง


ขอขอบคุณที่มา https://www.bdmswellness.com/th/health-guide/79/6-Common-Vaginal-Problems-Signs.html